เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพจัดสร้างหอระฆัง"ยอยศยิ่งฟ้า-บารมีพระเทพสิทธินายก" เชียงราย

ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดสร้างหอระฆัง "ยอยศยิ่งฟ้า-บารมีพระเทพสิทธินายก" (วัดพระสิงห์ เชียงราย) ณ พุทธมณฑล จังหวัดเชียงราย จัดสร้างถวายโดยโครงการคชศิลป์ ไปร่วมสร้างบุญ สร้างกุศลด้วยกันนะค่ะ

กำหนดวางศิลาฤกษ์

วันอาทิตย์ที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๘ เวลา ๙.๓๙ น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ๐๘๔-๕๕๘๖-๓๓๓, ๐๖๑-๗๘๑๖-๔๔๔, ๐๖๑-๗๒๘๒-๖๖๖




ทัวร์ช้างบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร เชียงราย

ทัวร์ช้างบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ตั้งอยู่ในหมู่บ้านรวมมิตร หมู่ที่ 2 ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการ เมื่อปี พ.ศ.2518 โดยในขณะนั้นมีนายดิปุหนะ ดูแหนะ, นายญะก่าดู ดูแหนะ, นายชาย กาทู และพรรคพวก ส่วนหนึ่งได้นำช้างมาเปิดบริการ โดยครั้งแรกมีช้างให้บริการเพียง 4 เชือก โดยใช้ชื่อในขณะนั้นว่า "ทัวร์ช้าง" จนกระทั่งปี พ.ศ.2519 ทัวร์ช้างได้รู้จักกับอาจารย์พิพัฒน์ ไชยสุรินทร์ ท่านได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเปิดบริการทัวร์ช้างให้กว้างขวางขึ้นและหาช้างเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการขยายเส้นทางการท่องเที่ยวไปยังหมู่บ้านชาวเขาเผ่าต่างๆ เช่น บ้านห้วยแม่ซ้าย บ้านยะฟู บ้านอาผ่าพัฒนา แต่การดำเนินการยังไม่เป็นที่แพร่หลาย หรือยังไม่เป็นที่ยอมรับของชุมชนต่างๆ และยังคงมีช้างที่ให้บริการ 4 เชือกเหมือนเดิม

ในปี พ.ศ.2522 ทัวร์ช้างบ้านรวมมิตร ได้มีการประชุมปรึกษาหารือกันเพื่อหาบุคคลที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนดำเนินการและบริหารงานต่างๆ และได้คัดเลือกนายกิตติชัย ดำรงกิจกุญชร เข้ามาบริหารงานในสมัยนั้น และต่อมานายกิตติชัย และคณะกรรมการในสมัยนั้นได้พากันเดินสำรวจเส้นทางเดินทัวร์ช้างในแต่ละเส้นทางและร่วมกันเพื่อจัดทำแนวทางการประชาสัมพันธ์เพื่อเป็นที่รุ้จักมากยิ่งขึ้น ต่อมาอีกไม่นาน ทัวร์ช้างบ้านรวมมิตรก็เป็นที่ยอมรับของชุมชนมากขึ้นเรื่อยๆ มีการเปิดโอกาสให้สมาชิกได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ และจัดหาช้างให้เพิ่มมากขึ้น จากนั้นสมาชิกก็เริ่มให้ความสำคัญของช้างมากขึ้น ณ เวลานั้นสมาชิกบางส่วนไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อช้างจึงได้มีการประชุมปรึกษาหารือร่วมกันว่าควรมีการเข้าหุ้นกันในการซื้อช้างตามกำลังที่มีอยู่ของสมาชิกแต่ละคน พอช้างเพิ่มเป็น 13 เชือก ทางสมาชิกก็คิดว่าน่าจะเปลี่ยนชื่อจากเดิมใช้ชื่อว่า "ทัวร์ช้าง" เปลี่ยนเป็น "ทัวร์ช้างบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร" แทนจนถึงปัจจุบัน

หลังจากปี พ.ศ.2522 จำนวนช้างเพิ่มมากขึ้นและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น นายกิตติชัย ดำรงกิจกุญชร ก็ลาออกจากชมรมเพื่อรับหน้าที่ใหม่ ทางชมรมฯ ก็ได้ทำการคัดเลือกบุคคลที่จะมาบริหารงานต่อไป คือนายประกิต ท่อมะหมื่อ และนายมานพ เลิศบรรจงขวัญ เข้ามาบริหารงานของชมรม และทางชมรมก็ได้มีแนวคิดว่าควรต้องหาช้างมาเพิ่มมากขึ้นให้พอเพียงกับความต้องการของนักท่องเที่ยว ทางคณะกรรมการจึงได้หาซื้อช้างเพื่อมาเพิ่ม

และเมื่อปลายปี 2537 ทางชมรมทัวร์ช้างได้คัดเลือก นายอึแสะ แซวา เข้ามาทำงานร่วมกับนายมานพ แทนนายประกิตที่เสียชีวิตทั้งสองก็บริหารงานด้วยดีตลอดมา และมีความคิดที่จะขยายเส้นทางทัวร์ต่อไปอีก เช่น จากเดิมเส้นทางเดินป่าจากหมู่บ้านรวมมิตรไปบ้านเย้า ห้วยแม่ซ้าย บ้านยะฟู ก็คิดขยายเส้นทางเพิ่มเติมในหมู่บ้านขึ้นอีก คือ เส้นทางเดินในหมู่บ้านใช้เวลา 2 ชั่วโมง, 1 ชั่วโมงครึ่ง, 30 นาที เพื่อชมทรรศนียภาพและความเป็นอยู่ของชนเผ่าต่างๆ สนับสนุนให้ชาวบ้านมีอาชีพเกี่ยวกับการค้าขาย และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น และชนเผ่าควบคู่กัน

เมื่อปี พ.ศ.2538 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและเกียรติยศอันใหญ่หลวงของชมรมทัวร์ช้างบ้านรวมมิตรที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จทรงช้างของชมรมฯ การดำเนินการของชมรมดำเนินการมาด้วยดี จนกระทั่งปี พ.ศ.2542 นายมานพ ได้ขอลาออกจากการเป็นผู้จัดการชมรม ทางชมรมจึงได้คัดเลือกนางชูศรี ปิงสุขแสน เข้ามาบริหารงานแทนร่วมกับนายอึแสะ แซวา จนถึงปัจจุบัน

ปัจจุบันทางชมรมทัวร์ช้างบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร มีช้างให้บริการประมาณ 35 เชือก และมีการเปิดให้บริการอย่างสมบูรณ์แบบ การสัญจรไปมาสะดวกสบาย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้ทั้งทางบกและทางน้ำ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น.-16.00 น. (ขอบคุณข้อมูลจาก...ทัวร์ช้างบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร)















งูยักษ์ กะเหรี่ยงรวมมิตร เชียงราย

หมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามมากบ้านเรือนตั้งอยู่ติดกับลำน้ำกก นอกจากจะเป็นหมู่บ้านที่ให้บริการขี่ช้างเที่ยวรอบหมู่บ้าน ล่องลำน้ำกก ปัจจุบันมีช้างให้บริการประมาณ 35 เชือก ในหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตรยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมชมเจ้างูหลามยักษ์ (ยักษ์สมชื่อ ตัวใหญ่มาก) แต่มีบางตัวที่ยังอยู่ในสถานะเริ่มโต นอกจากงูยักษ์ก็จะมีตะกวดยักษ์ให้ดูอีกด้วย 

กรณีเดินทางด้วยเรือ เมื่อเรือจอดที่จุดนี้เดินขึ้นมาก็จะเจอกับร้านค้าที่มีสินค้าหลากหลายให้เลือกซื้อ เลือกชม เช่น เสื้อผ้าชาวเขา เครื่องประดับ สินค้าตกแต่ง โดยแบ่งพื้นที่ไว้สำหรับโชว์งูยักษ์ สำหรับผู้ที่ชอบงู รักงู และไม่กลัวงู จะถ่ายรูปคู่กับงูก็ได้นะค่ะ...คิดค่าบริการถ่าย 1 รูป ในราคา 300 บาท กรณีใช้รถส่วนตัวแนะนำให้จอดรถข้างนอกแล้วเดินเข้าไป ระยะทาง 80 เมตร เนื่องจากว่าสถานที่จอดรถแคบมากจอดรถได้ไม่กี่คันก็เต็มแล้ว...















พระธาตูโกฏิแก้ว อ.เมือง จ.เชียงราย

พระธาตุโกฏิแก้ว ตั้งอยู่หมู่ ๘ บ้านทรายมูล ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นพระธาตุที่ตั้งอยู่บนเขาสูง ภายในบริเวณพระธาตุโกฏิแก้วร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ปกคลุมทั่วบริเวณทำให้ไม่ร้อนและเงียบสงบ ตามประวัติเดิมเล่าว่า....เป็นวัดร้างไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนแน่นอนว่าสร้างในสมัยใด มาพบในภายหลังในสภาพของซากพระเจดีย์ที่ปรักหักพังจนไม่เหลือรูปแบบสถาปัตยกรรมเดิม คาดว่าน่าจะมีอายุประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ ปี

ณ สถานที่แห่งนี้ ได้เคยมีเรื่องราวน่าอัศจรรย์ใจเกิดขึ้นมากมายหลายครั้ง เช่น เคยมีผู้พบเห็นดวงไฟ (พระธาตุ) เคลื่อนที่ไปหรือกลับหลายคราด้วยกันหรือ เคยมีผู้ที่นำสิ่งของจากบริเวณซากพระเจดีย์ไปหมายจะครอบครองก็ต้องนำกลับมาคืนในไม่ช้า และต่อมาก็มีอันเป็นไปในทางที่ไม่ดีทุกคน หรือผู้ที่เข้ามาหาของป่า ตัดต้นไม้ในบริเวณนี้ก็มักจะจบลงด้วยการเป็นไข้หัวโกร๋นอยู่บ่อยครั้ง จนเป็นที่ร่ำลือกันทั่วไป

ต่อมาประมาณปี ๒๕๒๗ ชาวบ้านที่มีความเคารพเลื่อมใสศรัทธา รวบรวมปัจจัยได้จำนวนหนึ่งจัดสร้างเป็นพระเจดีย์ ครอบบริเวณซากพระเจดีย์เดิมไว้ ขณะกำลังก่อสร้างชาวบ้านได้นิมนต์พระธุดงค์ให้มาพำนักอยู่เพื่อเป็นขวัญกำลังใจจนแล้วเสร็จ

ต่อมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๘ หลวงพ่ออ้าย สนติกโร (ปัญญาโกญ) ได้เข้ามาจำพรรษาอยู่ที่พระธาตุโกฏิแก้วแต่เพียงลำพัง ด้วยวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัด เป็นที่น่าเลื่อมใส จวบจนปี พ.ศ.๒๕๔๙ ท่านก็มรณภาพลงรวมสิริอายุ ๘๔ ปี ๑๙ พรรษา

ก่อนที่หลวงพ่ออ้ายจะมรณภาพ พระมหาสมชาย สมมชีโว (พระลูกชาย) ได้เดินทางมาจากนนทบุรี มาจำพรรษาร่วมด้วย เพื่อกระทำกตเวทิตาคุณ ในคืนหนึ่งประมาณตีสอง ท่านได้พบเห็นพระบรมสารีริกธาตุ เสด็จจากทิศตะวันตกมุ่งทางพระเจดีย์ มีลักษณะเป็นดวงไฟสีเขียว มีแสงสว่าง สุกใส ดวงกลมโตเท่าลูกตระกร้อ ยังแสงให้สว่างกระจ่างไปทั่วบริเวณนี้ราวกับว่าเป็นเวลากลางวัน ยังความอัศจรรย์และปิติใจเกิดแก่ท่านเป็นอย่างยิ่ง หลังจากหลวงพ่ออ้ายมรณภาพแล้ว ท่านก็ได้อยู่จำพรรษา และบำรุงดูแลพระธาตุเจดีย์องค์นี้สืบต่อมา

ประมาณปลายปี พ.ศ.๒๕๔๕ พระอาจารย์สมบัติ นนทิโก ได้ชักชวนญาติโยมและผู้มีจิตศรัทธาจากกรุงเทพฯ ร่วมกันบูรณะพระเจดีย์ครั้งใหญ่จนเสร็จสิ้นสมบูรณ์ เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ และได้มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุ ในวันที่ ๒๒-๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ โดยได้มีการสวดมนต์สาธยายพุทธคุณอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยศรัทธาอย่างล้นหลามจนทั่วทุกสารทิศ พระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ ณ พระเจดีย์พระธาตุโกฏิแก้วนี้ ส่วนหนึ่งได้รับจากพระครูธรรมธรสุมนต์ วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งท่านได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระสังฆราชฯ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร ส่วนหนึ่งได้รับจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ อีกส่วนหนึ่งเป็นพระธาตุที่มีอยู่เดิมแล้ว....