ในปีพุทธศักราช 2523คณะสงฆ์ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนทุกหมู่เหล่า เสนอโครงการสร้างศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ อำเภอแม่สรวย ไปยังกรมศิลปากร ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างได้ในปีพุทธศักราช 2526
วันที่ 5 กรกฏาคม พุทธศักราช 2530 คณะสงฆ์ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ได้ตั้งผ้าป่าสามัคคีหาทุนสร้างอาคารไม้ 1 หลัง เพื่อใช้เป็นศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชชั่วคราว ณ หมู่ที่ 13 ถนนเชียงราย-เชียงใหม่ ตำบลแม่พริก อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
วันที่ 3 กันยายน พุทธศักราช 2533 ได้มีการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยอดีตแม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมเงินทุน 500,000 บาท โดยมีองค์กรเอกชน ส่วนราชการ และพ่อค้าประชาชน ได้ร่วมบริจาคด้วย รายได้ส่วนหนึ่งมาจากการจำหน่ายต้นพันธุ์จำปีพร้อมปลูก ต้นละ 3,000 บาท และเชิญผู้บริจาคร่วมปลูกพร้อมมีป้ายชื่อผู้ปลูกทุกต้นด้วย นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายอำเภอแม่สรวย และผู้บังคับการจังหวัดทหารบกในขณะนั้น (ปัจจุบันคือ พล.อ.แป้ง มาลากุล ณ อยุธยา)
วันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2537 ได้มีพิธีอัญเชิญพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจำลอง มาจากเมืองพิษณุโลกมาประดิษฐาน ณ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดเชียงราย
วันที่ 13 พฤษภาคม พุทธศักราช 2545 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จเป็นองค์ประธาน ประกอบพิธีหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเท่าพระองค์จริง ณ วัดบวรนิเวศวรวิหาร
วันที่ 25 มกราคม พุทธศักราช 2546 ได้ประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมรูปเท่าพระองค์จริงมาประดิษฐาน ณ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตราบเท่าทุกวันนี้
หอประวัติศาสตร์การเดินทัพสมเด็จพระนเรศวรมหาราช |
ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 69 ไร่ ถนนเชียงใหม่-เชียงราย กม.ที่ 129 เลขที่ 139 หมู่ 13 ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ก่อนถึงที่ว่าการอำเภอแม่สรวย ประมาณ 2 กิโลเมตร ณ บริเวณอุทยานอันเป็นที่ตั้งศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์การเรียนรู้ประวัติศาสตร์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เฉลิมพระเกียรติแห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทยอีกด้วย ด้วยระบบที่ทันสมัย 2 ภาษา ไทย-อังกฤษ ได้จากห้องแสดงภาพอดีตและปัจจุบัน (Then & Now) และจากจอคอมพิวเตอร์ระบบสัมผัส (Touch Screen Computer)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น