ประวัติพระครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ เชียงราย

พระครูบาอริยชาติ อริยจิตโต ผู้ริเริ่มสร้างวัดแสงแก้วโพธิญาณ มีชื่อเดิมว่า สุชาติ อุ่นต๊ะ หรือเก่ง ถือกำเนิดเมื่อวันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ.2524 ที่บ้านปิงน้อง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรของโยมพ่อสุข โยมแม่จำนงค์ อุ่นต๊ะ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาด้วยกัน 3 คน คือ (1) นายนิเวศน์ อุ่นต๊ะ (2) นายนิรันดร์ อุ่นต๊ะ (3) ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต (อุ่นต๊ะ) ขณะที่โยมแม่ตั้งครรภ์ได้ฝันประหลาดว่า "ได้รับผ้าผืนใหญ่ สีขาวนวลตา เมื่อพิจารณาก็รู้สึกชอบใจยิ่งนัก เพราะผ้าผืนนั้นสะอาดไร้รอยเปื้อนใดๆ จากนั้นโยมแม่ก็สะดุ้งดื่นแล้วได้นำความฝันนี้ไปเล่าให้ผู้เฒ่าผู้แก่ฟัง ซึ่งล้วนมีแต่คนบอกว่าน่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดี

ในวัยเยาว์ท่านมีผิวพรรณผุดผ่อง มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดและมีนิสัยชอบความสงบ รักสันโดษ ไม่เบียดเบียนสัตว์ ชอบเข้าวัดฟังธรรม เมื่อเข้าสู่วัยเรียนได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนวัดชัยชนะ ตำบลประตูป่า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน และจบชั้นประถมศึกษา จึงได้มาเรียนต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสารภีวิทยาคม เมื่อสำเร็จชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2541 ณ วัดชัยมงคล ตำบลประตูป่า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน ขณะนั้นมีอายุ 17 ปี โดยมีพระครูภัทรปัญญาธร วัดศรีสุพรรณ จังหวัดลำพูน เป็นพระอุปัชฌาย์ ขณะที่บรรพชาเป็นสามเณรอยู่นั้นได้ศึกษาเล่าเรียนศีลธรรม จรรยา อักขระ เลขยนต์ อักษรล้านนา และได้ศึกษาเล่าเรียนสรรพวิชาต่างๆ จากครูบาอาจารย์หลายท่าน เช่น ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม ครูบาจันทร์ติ๊บ ญาณวิลาโส วัดชัยชนะ ครูบาเทือง นาถสีโล ครูบาอินตา วัดห้วยไทร ครูบาอินตา วัดวังทอง ครูบาบุญสม สิริวัชโย ฯลฯ

หลังจากนั้นได้ออกธุดงค์แสวงหาพระธรรมและปลีกวิเวกตามสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดแพร่ และจังหวัดน่านได้พบบุคคลสำคัญ 2 ท่าน คือ แม่หลวงแก้ว และแม่หลวงตอง ผู้ซึ่งในอดีตเคยเป็นคนใกล้ชิดกับเจ้าเมืองน่าน และเคยช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ เมื่อแม่หลวงทั้ง 2 ได้เจอครูบาก็ทักขึ้นว่า "เณรเป็นผู้มีบุญนะ ต่อไปขอให้รักษาตัวไว้ให้ดี เพราะจะรู้เรื่องในศาสนา" และแม่หลวงทั้งสองนี้เองที่ได้เรียกท่านว่า "ครูบาน้อย" เป็นคนแรก ในขณะที่ครูบาได้ธุดงค์เป็นระยะเวลา 8 เดือนแล้ว ก็ได้รับข่าวว่าโยมแม่ป่วยหนักจึงได้รีบกลับบ้าน หลังจากนั้นโยมแม่ก็เลยขอให้ครูบาเรียนต่อ ครูบาจึงกลับมาเรียนต่อที่วัดพระธาตุหริภุญชัยอีก 2 ปี สอบได้เปรียญธรรม ประโยค1-2 และสอบได้นักธรรมโท เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ครูบาได้อุปสมบทที่วัดชัยมงคล (วังมุย) ตำบลประตูป่า อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยมีพระครูวิสิฐปัญญากร เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระธรรมวาจาจารย์คือ พระครูภัทรกิตติคุณ และพระอนุสาวนาจารย์ คือ พระครูไพศาลธรรมนุสิฐ เมื่ออุปสมบทได้รับฉายา "อริยจิตโต"

ในวันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2554 เวลา 10.25 น. เมื่ออุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่วัดชัยมงคล (วังมุย) มุ่งมั่นปฏิบัติธรรมกรรมฐานเข้านิโรธกรรมตามแบบฉบับโบราณจนญาติโยมเกิดความศรัทธาเลื่อมใสในวัตรปฏิบัตินิมนต์ไปจำพรรษาที่วัดพระธาตุดงสีมา ตำบลแม่พริก อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ซึ่งในขณะที่ท่านจำพรรษาท่านอุทิศตนเพื่อพัฒนาและบูรณะพระธาตุเก่าแก่ที่กำลังทรุดโทรมให้เจริญรุ่งเรือง

ต่อมาพ่อหลวงยา ศรีทา และชาวบ้านป่าตึงงาม (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นหมู่บ้านใหม่แสงแก้ว) ได้กราบนิมนต์พระครูบาอริยชาติ อริยจิตโต ให้มาสร้างวัดในหมู่บ้านขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดยวางศิลาฤกษ์สร้างวัดแสงแก้วโพธิญาณ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2549 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 เหนือ (แปดเป็ง) วันวิสาขบูชา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาท่านจึงได้เริ่มก่อสร้างศาสนเสนาเป็นวิหาร อุโบสถ หอไตร หอระฆัง หอฉัน กุฏิสงฆ์ ศาลา อาคารครูบาศรีวิชัย รูปเหมือนครูบาศรีวิชัยโลหะองค์ใหญ่ และศาสนวัตถุต่างๆ ฯลฯ เป็นต้น โดยใช้ศิลปะแบบผสมผสานล้านนาพม่า ไต (ไทลื้อ) ใช้ระยะเวลาอย่างรวดเร็วในการก่อสร้าง นอกจากนี้ท่านครูบายังได้สร้างสาธารณะประโยชน์ในที่ต่างๆ มากมายทั้งวัด โรงเรียน โรงพยาบาลชุมชนหมู่บ้าน และพัฒนาวัดแสงแก้วโพธิญาณอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน (ขอบคุณข้อมูลจาก...วัดแสงแก้วโพธิญาณ)


พระครูบาอริยชาติ อริยจิตโต เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น