วัดกลางเวียง ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย








วัดกลางเวียง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงรายพอดีจึงได้สถาปนาสะดือเวียง (เสาหลักเมือง) ขึ้นและประดิษฐานสะดือเวียงในซุ้มมณฑป ด้านนอกมีรูปปั้นกุมภัณฑ์ 2 ตนทำหน้าที่พิทักษ์สะดือเวียงตามคติความเชื่อของชาวล้านนา (ตามปกติจะมีพิธีไหว้สะดือเวียงในเดือน พ.ค.-มิ.ย.ของทุกปี) (Wat Klang Wieng is located in the center of Chiang Rai, then the city navel of Chiang Rai is built here within the pavilion. Outside the pavilion, there are 2 giants which are responsible to protect the citys umbilicus in accord with Lannas belief)

วิหารวัดกลางเวียง เป็นศิลปกรรมล้านนาประยุกต์ ประดับช่อฟ้า ใบระกา และหน้าบันตกแต่งด้วยเครื่องไม้แกะสลักลงรักปิดทองภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประธานซึ่งลงรักปิดทองเหลืออร่าม.(Temple Hall is built in contemporary Lanna style. It is decorated with sky tassels, tooth like ridges on the sloping edges of a gable, and the pediment is carved and covered with the lacquer work. Inside the hall, there is a principle Buddha image which is covered with glittering golden)

พระธาตุช้างค้ำ มีรูปแบบร่วมสมัย คือ มีการประดับจระนำซุ้มด้วยพระพุทธรูปจำนวนมาก และฐานเจดีย์ประดับด้วยช้างทรงเครื่องรายรอบ อันเป็นคติช้างค้ำจุนจักรวาลที่นิยมในเจดีย์สายลังกา ลักษณะพระธาตุแบบล้านนา คือ ฐานรองรับองค์ระฆังอยู่ในผังแปดเหลี่ยม ส่วนฐานสูง และองค์ระฆังเล็ก (Charng Kham Stupa is contemporary designed that is; decorated with a lot of Buddha images inside niches and its base is surrounded by adorned elephants that is popularly built in Sri Lankan bell-shaped stupa. It is the symbolic of mythology that they hold up the earth)

หอไตร (สถานที่เก็บพระไตรปิฏก) สะท้อนถึงความตั้งมั่นในพุทธศาสนา หอไตรหลังนี้เป็นศิลปะล้านนาประยุกต์ เป็นอาคารสูง หลังคาทรงจั่ว ประดับด้วยเครื่องไม้แกะสลักปิดทองอย่างสวยงาม และมีระเบียงโดยรอบ (Scripture library (A place for keeping Pali Buddhist scripture or Tripitaka) The library is contemporary Lanna style, designed nicely with high-triangle roof and golden wood carved decoration. It is also surrounded by the balcony)

วัดกลางเวียง สร้างมาแล้วประมาณ ๕๖๐ ปี (นับถึง พ.ศ.๒๕๓๕) เดิมชื่อว่า "วัดจั๋นต๊ะโลก" เปลี่ยนชื่อจากวัดจั๋นต๊ะโลกเป็นวัดกลางเวียง เมื่อสร้างเมืองเชียงราย ครั้งที่ ๒ ปี พ.ศ.๒๔๑๗ เมื่อสร้างเสร็จวัดจาก ๔ มุมเมือง ใจกลางเมืองตกที่วัดจั๋นต๊ะโลก จึงได้เปลี่ยนชื่อจากวัดจั๋นต๊ะโลก เป็นวัดกลางเวียงตั้งแต่นั้นมา ทางการได้สร้างสะดือหรือเสาหลักเมืองไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้ชาวเชียงรายได้กราบไหว้สักการะบูชา แต่หลักเมืองที่ทางการสร้างนี้ได้ล้มไปนานแล้วเพราะก่ออิฐฉาบด้วยดิน มีความสูงประมาณ ๑ เมตร ๕๐ เซนติเมตร ข้างในมีที่ตั้งเครื่องสักการะบูชา ปี พ.ศ.๒๕๓๕ พระครูศาสนากิจโกศล เจ้าอาวาสและคณะศรัทธาได้สร้างหลักเมืองขึ้นมาใหม่แทนของเดิมและตั้งอยู่ที่เดิมสร้างมณฑปครอบไว้ ดังที่เห็นปัจจุบันนี้ (ขอบคุณข่้อมูลจาก...วัดกลางเวียง)



ประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2559 เชียงราย

เมื่อวันที่ 15 กรกฏาคม 2559 ที่ผ่านมา เทศนครเชียงราย ร่วมกับหน่วยงานราชการ หน่วยงานเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชนในชุมชนต่างๆ จัดงานประเพณีแห่เทียนจำนำพรรษา ประจำปี 2559 เพื่ออนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่น ซึ่งตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ถือว่าเป็นวันสำคัญทางศาสนา คือ "วันเข้าพรรษา" ชาวพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่จะนิยมถวายเทียนพรรษา และอธิษฐานบำเพ็ญบุญชำระจิตใจตลอดระยะเวลา 3 เดือนเพื่อเป็นกุศลบารมีแก่ตนเอง ปีนี้วันเข้าพรรษาตรงกับวันพุธที่ 20 กรกฎาคม 2559 เก็บภาพบรรยากาศของงานพิธีแห่เทียนจำนำพรรษาของเชียงรายมาฝากนะค่ะ...

















จุลินทรีย์เบญจคุณ ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เชียงราย









นำส่วนผสมที่เป็นดินจอมปลวก ดินโคลนไผ่ ดินรากข้าวหรือรากผักตบชวา ในอัตราส่วนเท่ากันโดยน้ำหนักผสมเข้าด้วยกัน สำหรับส่วนผสมที่เป็นนมเปรี้ยว ยาคูลท์ แป้งข้าวหมาก น้ำตาลทรายแดงให้นำมาผสมและคนจนน้ำตาลทรายแดงและแป้งหมักละลาย จึงจะนำมาผสมกับดินจอมปลวก ดินโคนไผ่ และดินรากข้าวหรือรากผักตบชวา คลุกเคล้าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
นำไปทำอินทรีย์วัถตุหมักโดยการเติม อาหารสัตว์ อาหารไก่เล็ก มูลสัตว์แห้งหมู วัว ควาย คลุกเคล้าให้เข้ากัน ถ้าแห้งเกินไปพรมด้วยน้ำธรรมดาพอหมาด แปรเป็นก้อนเบญจคุณ ให้ปั้นเป็นก้อนเท่าลูกเทนนิส จากนั้นใช้ผ้าคลุม7 วันในที่อุณหภูมิห้อง 
กรณีแปรเป็นน้ำเบญจคุณ (1) ก้อนเบญจคุณ 20 ก้อน (2) รำละเอียด 10 กิโลกรัม (3) กากน้ำตาล 10 กิโลกรัม (4) น้ำ 180 ลิตร หมักไว้ 7 วัน

จุลินทรีย์เบญจคุณนำไปใช้อย่างไร...ใช้โดยตรงด้วยการปั้นขยายปริมาณให้มากขึ้น เมื่อหมักได้ 7 วัน แล้วนําลงดินและเติมปุ๋ยหมักธรรมดา หรือมูลสัตว์แห้ง เตรียมดินไว้ 1- 2 อาทิตย์ล่วงหน้าเพื่อปลูกพืชผักในภาชนะบรรจุหรือแปลงปลูก...ขยายเป็นเบญจคุณน้ำใช้ทําเป็นปุ๋ยอินทรีย์ หรือใช้หมักขยะฟางข้าวและอินทรียวัตถุอื่นๆ เพื่อเป็นแหล่งสร้างปุ๋ยอินทรีย์ธรรมชาติในดิน ใช้หมักกับผัก ผลไม้ทําเป็นเอ็นไซม์ (Enzyme) บํารุงพืช หรือผสมอาหารสัตว์ได้ทุกชนิด ใช้หมักสมุนไพรไล่แมลง

อัตราการใช้...ก้อนเบญจคุณ 1 ก้อน (0.2 กก.(2 ขีด) ราคาประมาณ 3 บาท) ใช้ได้กับพื้นที่ 1 ตารางเมตร น้ำหมักเบญจคุณ 200 ลิตร (ราคาประมาณลิตรละ 6.30 บาท) ใช้ได้หลายอย่าง เช่น ผสมน้ำ 20 เท่า เพื่อใช้สลายอินทรียวัตถุธรรมชาติได้ทุกอย่าง และใช้น้ำหมักเบญจคุณ 200 ลิตรหมักปุ๋ยอินทรีย์เบญจคุณได้ 1 ตัน (ขอบคุณ...ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงบ้านหัวทุ่ง และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาแม่สรวย เชียงราย)