ทรงชนะพญามาร คุ้มครองรักษาพระพุทธศาสนา พระอุปคุตมหาเถรเจ้า (พระบัวเข็ม) มีชื่อเต็มว่า "กีสนาค" อุปคุตตะมหาเถระ ครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ว่าไปข้างหน้าอีก ๒๐๐ กว่าปี จะมีพระรูปหนึ่งมีฤทธิ์มาก จะได้ปราบพญามารให้พ่ายแพ้แล้วกลับใจปราถนาเป็นพระพุทธเจ้า จะอยู่รักษาพระพุทธศาสนาจนครบ ๕,๐๐๐ วัสสา จะอธิฐานอยู่ถึง ๑ กัป ตราบเข้าสู่ศาสนาพระศรีอาริย์ และจะปราถนาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต หลังจากปรินิพพาน ๒๑๙ ปี
พระเจ้าอโศกมหาราช ศรัทธาเลื่อมใสอย่างยิ่งในพระพุทธศาสนา มีการค้นพบพระบรมสารีริกธาตุทั้งหมด จึงสร้างสถูปเจดีย์ ๘๔,๐๐๐ องค์ บรรจุพระบรมสารีกธาตุทั่วชมพูทวีป เสร็จแล้วดำริจะฉลองอย่างยิ่งใหญ่เป็นเวลา ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน เกรงว่าพญามารจะขัดขวาง ปรึกษาพระโมคคัลลีบุตรติสสะมหาเถระ ขอให้เป็นธุระป้องกัน ขณะคณะสงฆ์ปรึกษากันอยู่มีครุฑไล่จับพญานาค ได้มีสามเณรน้อยมีฤทธิ์มากองค์หนึ่ง ช่วยขับไล่พญาครุฑ ช่วยพญานาคไว้ ได้รู้จากเณรว่ามีพระอุปคุตมหาเถระเข้าสมาบัติอยู่สะดึอทะเล จะสามารถป้องกันพญามาร จึงให้พระผู้มีฤทธิ์ ๒ รูป นิมนต์ท่านขึ้นมาทำหน้าที่ ได้ทำการต่อสู้กับพญามารป้องกันพายุฝน ลม ไฟ อันตรายทุกอย่างไว้ได้
สุดท้ายได้เนรมิตหมาเน่าแขวนคอพญามาร แม้แต่พระอินทร์ก็ช่วยเอาออกไม่ได้ ต้องกลับมาขอขมาพระมหาเถระ ท่านจึงอธิษฐานมัดพญามารกับภูเขาสุวรรณบรรพต จนงานเฉลิมฉลองสำเร็จ เป็นที่ปิติอย่างยิ่งของพระเจ้าอโศกมหาราช พญามาร อับอายเกิดสังเวชสลดลดจิต ลดทิฏฐิมานะ ระลึกถึงคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้น้อมจิตอธิษฐานปรารถนาสร้างบารมีขอเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาตคตั้งแต่บัดนั้น
กล่าวกันว่า ท่านยังเข้าฌานสมาบัติอยู่สะดึอทะเล วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำตรงกับวันพุธ กลางคืน ท่านจะขึ้นมาบิณฑบาต โปรดผู้ศรัทธาเลื่อมใสให้ได้สมปรารถนา หากมีพิธีกรรมสำคัญจะมีการอัญเชิญพระอุปคุต ขอบารมีคุ้มครองป้องกันงานนั้นมักจะสำเร็จเรียบร้อย ไม่มีอุปสรรคปัญหา